15/8/52

ผลงานสมัยเรียน(ที่หลงเหลือ)

ผลงานที่นำมาแสดงก็ค่อยๆนำมานำเสนอนะครับ เนื่องจากต้องแบ่งเวลาให้กับการเตรียมการสอนด้วย (ขยันๆจริงๆ) ชมตัวเอง(อีกแล้ว>




ผลงานชิ้นที่ 1 คือ ภาพคุณยายชื้น(ขออภัยด้วยครับจำนามสกุลไม่ได้) เป็นผลงานสมัยเรียน ปวส.1 ที่ช่างศิลปสุพรรณบุรี ผลงานชิ้นนี้ครูได้กล่าวไว้ว่า"ไปหัดวาดฟิกเกอร์มาเยอะๆนะ มือก็เพี้ยน มันผิดธรรมชาตินะครูว่า" นั่นแหละครับ จึงเป็นแรงบันดาลใจอยางแรงกล้า ให้ผม!!!! เลี่ยงไปวาดภาพทิวทัศน์แทนไงละครับ อิอิอิ

....คุณยายชื้น ท่านคือ ครูผู้เชิดหุ่นกระบอกทรงเครื่อง ผมเกิดแรงบันดาลใจจากการไปนั่งอ่านนิตยสารเก่าๆในห้องสมุดที่วิทยาลัย บังเอิญไปพบภาพขาวดำของคุณยาย(ตามภาพที่วาดนั่นล่ะครับ) จึงคิดว่าถ้ามีงานฟรีองค์ประกอบ(ไม่กำหนดหัวข้อ)จะวาดภาพนี้แหละส่งครู ซึ่งดั่งกับฟ้าลิขิตครับ ได้งานฟรีองค์ประกอบจริงๆ...ภาพนี้ขนาดประมาณ100x120 ซม. ครับ ถ้าจำไม่ผิด
เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าดิบ(ตอนนั้นไม่ค่อยมีตังค์ครับ จำได้ว่าเอาเฟรมไปทาสีที่วิทยาลัย จากนั้นตากพัดลมตู้แอร์ จนเฟรมหย่อน สียังไม่แห้งครับ ครูมาจับเฟรมสียังติดมืออยู่เลย(วีรกรรม)



...จากนั้นแบกขึ้นหลังคารถประจำทางกลับมาเขียนต่อที่บ้าน ต้องหลบกิ่งไม้ที่พาดเกี่ยวกับหลังคารถในบางขณะของเส้นทาง และใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น เด็กศิลป์มากๆ ปิดห้อง ฟังเพลง เขียนภาพดึกดื่น ดมกลิ่นสีและน้ำมันสน อบอยู่ในห้องทั้งเช้าและเย็น อันนี้ไม่เหมาะนะครับ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งครับ เสียสุขภาพ



จำได้ว่าเคยไปนั่งเขียนภาพวัดป่าตอนมีงานประจำปี (นึกได้พอดีว่ามีรูปนั้น เดี๋ยวจะนำมาแสดงครับ) ผมเทน้ำมันสนลงในแก้วไอติมตักแบบชนิดพลาสติก หวังว่าจะล้างพู่กัน พอหันมาอีกทีแก้วไปติมละลายหายไปเลย .....





ภาพนี้คือ คุณยายของครูต้อมเอง คือ คุณยายฟื้น มีสุข นะครับ ตอนนี้ไปสวรรค์แล้วครับ ภาพนี้วาดด้วยความคิดถึงคุณยายครับ เทคนิคสีน้ำ ใช้เวลาวาด 3 วัน ครับ ขนาดประมาณ 60x40 ซม.ครับ





ภาพนี้ เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าดิบ(อีกแล้ว) ขนาดประมาณ 100X120ซม. เป็นผลงานครั้งเรียนอยู่ ปวส.2 และเป็นงานเพ้นส์หุ่นนิ่งชิ้นสรุป จำได้ว่า อาจารย์กล่าวไว้ว่า น่าจะวาดใบบัวให้มันสดชื่นกว่านี้นะ ใช้สีหวานดีจัง ยังกับงานผู้หญิงแน่ะ (อ่าวววว(เลยอยากจะลองชิมดูว่ามันหวานจริงๆไหม)อิอิ

...งานนี้เขียนไปก็เหงาไปเพราะมันเป็นช่วงที่ใกล้จะจบการศึกษา บรรยากาศช่วงหน้าร้อนก่อนปิดเทอม และเสียงจักจั่นที่ร้องระงม ผสมกับการเริ่มบอกกล่าวคำร่ำลาและหาที่เรียนต่อ



ภาพนี้เป็นการเขียนเรือประมงในค่ายลูกเสือตาม่องล่าย จ.ประจวบฯ (ขออภัยถ้าจำชื่ออ่าวผิดนะครับ) เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าดิบ ขนาดประมาณ 60 x 80 ซม.

....ภาพนี้เขียนในอ่าวที่เป็นเวิ้งเล็กๆ และไกลจากผู้คนอื่นๆที่มักจะเข้าไปในหมู่บ้านชาวประมง เหตุที่ชอบตรงนี้เพราะสามารถมองทะเลได้กว้างๆ (ต้องหันไปข้างๆ) แต่สิ่งที่วาดน่ะอยู่ในอ่าวเล็กๆ งงไหม เพื่อนๆของผมจะเดินลึกเข้าไปอีก ซึ่งเป็นศูนย์รวมเรื่อประมงของแท้เลย เรือเยอะมาก

...วาดไปสักพักน้ำทะเลเริ่มลดระดับลง เพราะเริ่มบ่าย ครั้งนี้หุ่นนิ่งชักจะไม่นิ่งเสียแล้ว ต้องวิ่งไปวิ่งมาเพื่อหามุมมองของหัวเรือให้เป็นมุมเดิม

...คนอื่นๆเขาวาดกันสบายเพราะเรือที่นั่นมันเบียดๆกัน เรือไม่ค่อยขยับ

...แต่เรือครูต้อม ขยับตลอด ภาพนี้เหนื่อยมาก เพราะเป็นการวาดหุ่นนิ่ง ที่ไม่นิ่งเอาเสียเลย

และเป็นการวิ่งบนทราย โอยยย เหนื่อย

ภาพนี้คือผลงานการไปนั่งเขียนภาพที่งานประจำปีของวัดป่าเลไลก์ (วันนี้ที่กำลังพิมพ์ก็ไปงานประจำปีมาเหมือนกัน แต่คนละปี) เป็นการเขียนภาพท่ามกลางผู้คนมากมายอีกครั้งหนึ่ง ที่เขามามุงไม่ได้มาชื่นชมเท่าไหร่นะ แต่เขามามุงดูว่าใครกันนะ กล้ามานั่งเขียนภาพกลางแดดเปรี้ยงๆแบบนี้

....และภาพนี้คือภาพที่ร้อนแดดที่สุด เพราะตั้งใจเลยว่าจะเขียนมุมนี้เท่านั้น (ดูๆไปก็น่าจะเรียกว่า บ้าพลังนะนี่) ไม่ควรเลียนแบบนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น