![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjLKzm1BLJs8TUCBnqnC2uCKsflsugjRYmt_tZ5FC5z_ujoO4B9HB82e-AujMx4Q68fpAEHjozUbwbkW0u8O97A2AfyhlJA_C7UXAk2b3G29PbH9i-ZLdmjn6U3KGXyfGnVBXDoKFxySVw/s320/3.jpg)
ผลงานชิ้นนี้จัดว่าเป็นผลงานมงคลชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาพพระบรมสาทิษลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพนี้เขียนในช่วงมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา 80 พรรษา ซึ่งสีชมพูก็คือส่วนหนึ่งจากสีของสัญลักษณ์ปีมหามงคล
ผลงานชิ้นที่ 1 คือ ภาพคุณยายชื้น(ขออภัยด้วยครับจำนามสกุลไม่ได้) เป็นผลงานสมัยเรียน ปวส.1 ที่ช่างศิลปสุพรรณบุรี ผลงานชิ้นนี้ครูได้กล่าวไว้ว่า"ไปหัดวาดฟิกเกอร์มาเยอะๆนะ มือก็เพี้ยน มันผิดธรรมชาตินะครูว่า" นั่นแหละครับ จึงเป็นแรงบันดาลใจอยางแรงกล้า ให้ผม!!!! เลี่ยงไปวาดภาพทิวทัศน์แทนไงละครับ อิอิอิ
....คุณยายชื้น ท่านคือ ครูผู้เชิดหุ่นกระบอกทรงเครื่อง ผมเกิดแรงบันดาลใจจากการไปนั่งอ่านนิตยสารเก่าๆในห้องสมุดที่วิทยาลัย บังเอิญไปพบภาพขาวดำของคุณยาย(ตามภาพที่วาดนั่นล่ะครับ) จึงคิดว่าถ้ามีงานฟรีองค์ประกอบ(ไม่กำหนดหัวข้อ)จะวาดภาพนี้แหละส่งครู ซึ่งดั่งกับฟ้าลิขิตครับ ได้งานฟรีองค์ประกอบจริงๆ...ภาพนี้ขนาดประมาณ100x120 ซม. ครับ ถ้าจำไม่ผิด
เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าดิบ(ตอนนั้นไม่ค่อยมีตังค์ครับ จำได้ว่าเอาเฟรมไปทาสีที่วิทยาลัย จากนั้นตากพัดลมตู้แอร์ จนเฟรมหย่อน สียังไม่แห้งครับ ครูมาจับเฟรมสียังติดมืออยู่เลย(วีรกรรม)
...จากนั้นแบกขึ้นหลังคารถประจำทางกลับมาเขียนต่อที่บ้าน ต้องหลบกิ่งไม้ที่พาดเกี่ยวกับหลังคารถในบางขณะของเส้นทาง และใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น เด็กศิลป์มากๆ ปิดห้อง ฟังเพลง เขียนภาพดึกดื่น ดมกลิ่นสีและน้ำมันสน อบอยู่ในห้องทั้งเช้าและเย็น อันนี้ไม่เหมาะนะครับ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งครับ เสียสุขภาพ
จำได้ว่าเคยไปนั่งเขียนภาพวัดป่าตอนมีงานประจำปี (นึกได้พอดีว่ามีรูปนั้น เดี๋ยวจะนำมาแสดงครับ) ผมเทน้ำมันสนลงในแก้วไอติมตักแบบชนิดพลาสติก หวังว่าจะล้างพู่กัน พอหันมาอีกทีแก้วไปติมละลายหายไปเลย .....
ภาพนี้ เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าดิบ(อีกแล้ว) ขนาดประมาณ 100X120ซม. เป็นผลงานครั้งเรียนอยู่ ปวส.2 และเป็นงานเพ้นส์หุ่นนิ่งชิ้นสรุป จำได้ว่า อาจารย์กล่าวไว้ว่า น่าจะวาดใบบัวให้มันสดชื่นกว่านี้นะ ใช้สีหวานดีจัง ยังกับงานผู้หญิงแน่ะ (อ่าวววว(เลยอยากจะลองชิมดูว่ามันหวานจริงๆไหม)อิอิ
...งานนี้เขียนไปก็เหงาไปเพราะมันเป็นช่วงที่ใกล้จะจบการศึกษา บรรยากาศช่วงหน้าร้อนก่อนปิดเทอม และเสียงจักจั่นที่ร้องระงม ผสมกับการเริ่มบอกกล่าวคำร่ำลาและหาที่เรียนต่อ
ภาพนี้เป็นการเขียนเรือประมงในค่ายลูกเสือตาม่องล่าย จ.ประจวบฯ (ขออภัยถ้าจำชื่ออ่าวผิดนะครับ) เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าดิบ ขนาดประมาณ 60 x 80 ซม.
....ภาพนี้เขียนในอ่าวที่เป็นเวิ้งเล็กๆ และไกลจากผู้คนอื่นๆที่มักจะเข้าไปในหมู่บ้านชาวประมง เหตุที่ชอบตรงนี้เพราะสามารถมองทะเลได้กว้างๆ (ต้องหันไปข้างๆ) แต่สิ่งที่วาดน่ะอยู่ในอ่าวเล็กๆ งงไหม เพื่อนๆของผมจะเดินลึกเข้าไปอีก ซึ่งเป็นศูนย์รวมเรื่อประมงของแท้เลย เรือเยอะมาก
...วาดไปสักพักน้ำทะเลเริ่มลดระดับลง เพราะเริ่มบ่าย ครั้งนี้หุ่นนิ่งชักจะไม่นิ่งเสียแล้ว ต้องวิ่งไปวิ่งมาเพื่อหามุมมองของหัวเรือให้เป็นมุมเดิม
...คนอื่นๆเขาวาดกันสบายเพราะเรือที่นั่นมันเบียดๆกัน เรือไม่ค่อยขยับ
...แต่เรือครูต้อม ขยับตลอด ภาพนี้เหนื่อยมาก เพราะเป็นการวาดหุ่นนิ่ง ที่ไม่นิ่งเอาเสียเลย
และเป็นการวิ่งบนทราย โอยยย เหนื่อย
ภาพนี้คือผลงานการไปนั่งเขียนภาพที่งานประจำปีของวัดป่าเลไลก์ (วันนี้ที่กำลังพิมพ์ก็ไปงานประจำปีมาเหมือนกัน แต่คนละปี) เป็นการเขียนภาพท่ามกลางผู้คนมากมายอีกครั้งหนึ่ง ที่เขามามุงไม่ได้มาชื่นชมเท่าไหร่นะ แต่เขามามุงดูว่าใครกันนะ กล้ามานั่งเขียนภาพกลางแดดเปรี้ยงๆแบบนี้
....และภาพนี้คือภาพที่ร้อนแดดที่สุด เพราะตั้งใจเลยว่าจะเขียนมุมนี้เท่านั้น (ดูๆไปก็น่าจะเรียกว่า บ้าพลังนะนี่) ไม่ควรเลียนแบบนะครับ